ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

กินอะไรก่อนสอบ,ห้ามกินอะไรก่อนสอบ


อาหารมื้อก่อนสอบนั้นเป็นมื้อที่สำคัญมากๆเลยนะคะ เพราะจะช่วยให้เราเตรียมพร้อมได้ทั้งร่างกาย และสมองของเราด้วย และก็มีอาหารบางอย่างที่เราไม่ควรทานในวันสอบ มีอะไรบ้างเราไปดูกัน
กินอะไรก่อนสอบ
กินอะไรก่อนสอบ 1. อาหารจำพวกโปรตีน
อาหารจำพวกโปรตีนจะทำให้สมองตื่นตัว เช่น ไข่ ถั่ว โยเกิร์ต ชีส ซีเรียล นมโลวแฟต โอตมีล ปลา เมล็ดทานตะวัน เป็นต้น
กินอะไรก่อนสอบ  2. ผักผลไม้
ผักผลไม้ที่ช่วยความจำและทำให้สมองแล่น เช่น แคนตาลูป ส้ม สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ กล้วย แครอท ผักโขม บล็อกโคลี่ แอสพารากัส ลูกพรุน
กินอะไรก่อนสอบ  3. น้ำเปล่า
หากเราขาดน้ำ จะทำให้เราขาดสมาธิ รู้สึกล้า ขาดพลัง อย่ารอให้กระหายค่อยดื่มน้ำ เพราะเมื่อหิวน้ำ หมายความว่าร่างกายเราได้ขาดน้ำไปล่วงหน้าก่อนแล้ว ทั้งนี้ ชาเป็นเครื่องดื่มที่พอใช้ได้เหมือนกัน แต่ต้องไม่เติมน้ำตาล
กินอะไรก่อนสอบ 4. ของว่างที่มีประโยชน์
เราอาจจะพกของว่างเล็กๆที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ติดตัวไว้ เช่น ถั่วอัลมอนด์ วอลนัต ผลไม้แห้งที่ไม่เติมน้ำตาล
ห้ามกินอะไรก่อนสอบ
ห้ามกินอะไรก่อนสอบ 1. อาหารประเภทแป้งๆทั้งหลาย
เนื่องจากเป็นอาหารที่จะไปขัดขวางการทำงานของสมอง เช่น ข้าว มันฝรั่ง คุ้กกี้ เค้ก มัฟฟิน และ พวกที่น้ำตาลสูง เช่น ช็อคโกแลต ของหวาน ลูกอมลูกกวาด และไก่งวงก็เป็นสิ่งต้องห้ามเช่นกัน เพราะจะมี L-tryptophan ที่จะทำให้เราง่วงได้ง่ายๆเลยทีเดียว นอกจากนี้ อาหารประเภทแป้ง เช่น ข้าว มันฝรั่ง อาจจะย่อยยาก ทำให้ดึงออกซิเจนจากสมองมาบางส่วนในการย่อย ทำให้สมองของเราตื้อได้ ซึ่งจริงๆแล้ว อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เป็นอาหารที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับทานวันก่อนสอบ แต่จำไว้ว่า ต้องไม่ใช่ในวันสอบ !
ห้ามกินอะไรก่อนสอบ 2. เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์
จริงๆก็คงไม่มีใครตั้งใจจะดื่มเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ในวันสอบ แต่ก็ระมัดระวังหน่อยก็แล้วกันค่ะว่า น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มสีสวยที่เรากำลังจะดื่มนั้นมีแอลกอฮอล์ผสมหรือไม่ เผลอดื่มเข้าไปละก้อ คงไม่ต้องบอกว่า มึนแน่ๆ นอกจากนี้น้ำอัดลมผสมโซดาทั้งหลายก็เป็นสิ่งที่ควรจะเลี่ยงเช่นกัน เพราะมีน้ำตาลสูง แต่ถ้าปกติเราดื่มกาแฟเป็นประจำ ก็ให้ดื่มกาแฟแก้วเล็กๆซักแก้ว เพราะการหยุดดื่มกระทันหัน อาจจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ (Caffeine Withdrawal) ขึ้นมาได้
ห้ามกินอะไรก่อนสอบ 3. อาหารหนักๆ
ทานอาหารให้เพียงพอ แต่อย่าให้ถึงกับอิ่มเกินไปนัก เพราะถ้าเราทานอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันมากเกินก่อนสอบ เราจะรู้สึกหนักและเซื่องซึม เพราะร่างกายเราจะไปโฟกัสกับระบบการย่อย แทนที่จะจัดเตรียมพลังงานให้สมอง ตัวอย่างอาหารเบาๆ ก็เช่น สลัดไก่ สลัดไข่ เกาเหลา แต่ก็อย่าเบาไป จำไว้ว่า ต้องกินให้เพียงพอ แต่ก็ต้องไม่อิ่มเกิน
ห้ามกินอะไรก่อนสอบ 4. อะไรที่ยังไม่เคยกินมาก่อน !
อะไรที่ยังไม่เคยกินมาก่อน ไม่ควรลองทั้งในวันก่อนสอบ และวันสอบ เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุเซอร์ไพรซ์ต่างๆที่จะทำให้เราไปสอบไม่ได้ ควรเลือกทานอาหารที่ร่างกายเราคุ้นเคยดีที่สุด
by Riya www.eduzones.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ยาอมตะ..ไข่ดองน้ำส้มสายชูหมัก

***ยาอมตะ..ไข่ดองน้ำส้มสายชูหม ัก*** ไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมักเป็นตำ รายาโบราณของจีนในสมัยพระเจ้าจิ ๋นซีฮ่องเต้ ได้สืบทอดต่อมาจนถึงบัดนี้ได้เผ ยแพร่ไปทั่วแถบเอเชีย  และในหมู่ชาวจีน  ในประเทศอเมริกา ผู้นำตำรามาเผยแ พร่คน แรกได้นำยามาทานเอง และแนะนำให้เพื่อน ฝูงทานด้วยได้ ผลดีเหมือนปาฏิหารย์สามารถรักษา โรคได้หลายโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคของผู้สูงอายุ ผู้เผยแพร่ทานยาไปแล้วกว่า 100 ฟองได้ผลดีเหมือนอย่างหนังกำลัง ภายใน สังเกตจากการเดินขึ้นบันไดจะไม่เหนื่อยเหมือนแต่ก่อน เพราะหัวใจจะแข็งแรง มากเป็นพิเศ ษ สรรพคุณ : รักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โรคหัวใจ) เลือดข้นและเหนียวเบาหวาน ความดันโลหิต สูง  ความดัน โลหิตต่ำ ลดไขมันในเลือด (ทั้งคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไ รด์) ไทรอยด์อัมพฤกษ์หรืออัมพาต อันเนื่องจาก เส้นเลือดในสมองตีบ ละลายหินปูน อาการเมื่อยชาตึงปวดและบวมตามร่างกาย โดยเฉพาะอย่ างยิ่งบริเวณด้านหน้า และด้านหลั ง ปวดเข่าปวดหลังขาไม่มีเรื่ยวแรง (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากหินปูนที่ง อก พอกกระดูกสันหลังเบียดหรือทับ เส้นประสาท)

Detox ราคาประหยัดด้วยกระเจี๊ยบเขียว

หลังจากงานเฉลิมฉลอง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา หลายคนคงกินเลี้ยงสังสรรค์กัน อาจจะเผลอตามใจปาก อาจลืมดูแล สุขภาพ ตัวเอง ว่าในรอบปีที่ผ่านมาร่างกายเราทำงานหนักโดยเฉพาะสุขภาพภายในที่ต้องแบกภาระหนักกับอาหารการกินที่เรากินเข้าไปอย่างไม่ระวัง เช่น กินปลาดิบ เสต็ก ผักดิบ ของหมักดอง  อาหารเหล่านี้อาจจะมีพยาธิแฝงตัวอยู่ อย่างน้อยร่างกายเราควร detox การถ่ายพยาธิปีละครั้งก็เป็นเรื่องดี เนื่องจากเจ้าพยาธิจะทำให้เลือดลมเดินไม่ดี และเมื่อมีการวางใข่ก็จะทำให้เลือดสกปรก ส่งผลทำให้เป็น ไฝ ฝ้า ผิวพรรณหมองคล้ำ ไม่สดใส กระเจี๊ยบเขียว  เป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพราะมีวิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเส้นใยสูง คนไทยส่วนใหญ่นิยมนำ กระเจี๊ยบเขียวมาจิ้มน้ำพริก นอกจากนี้ยังนำมาทำอาหารได้หลายอย่างอาทิ ยำกระเจี๊ยบเขียว แกงกะหรี่ปลาใส่กระเจี๊ยบเขียว ผัดเมล็ดกระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบเขียวชุบแป้งทอด เป็นต้น สรรพคุณทางยา กระเจี๊ยบเขียว  เป็นพืชที่หาซื้อได้ง่าย มีขายตามตลาดสดทั่ว รวมทั้งในศูนย์การค้า มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะในฝักกระเจี๊ยบนั้นมีสารเมือกพวกเพ็กติน (Pectin)

สูตรสำเร็จ 90 วัน ผู้นำคนใหม่

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 16:54:11 น. มติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เขียนข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระว่า เมื่อวันก่อนไปเจอหนังสือเล่มนึง น่าสนใจครับ ผมอ่านแล้วมีประโยชน์ดี โดยเฉพาะในช่วงใกล้ตุลาคม ที่จะมีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง รวมถึงคนทั่วไปที่ต้องมีการเปลี่ยนงาน หรือ เปลี่ยนตำแหน่งครับ หนังสือชื่อ "The First 90 Days" เขียนโดย Michael D.Watkins ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการพัฒนาผู้นำ การเปลี่ยนตำแหน่ง การเริ่มงานใหม่ Watkins เขากล่าวว่าจากผลการสำรวจผู้บริหารมากกว่า 1,300 คน 90% เห็นว่าช่วงการเริ่มงานในตำแหน่งใหม่เป็นช่วงที่ท้าทายที่สุดของการเป็นผู้นำ และ 75% เห็นว่าความสำเร็จหรือความล้มเหลวในช่วง 2-3 เดือนแรก จะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญถึงความสำเร็จในอนาคต เขาจึงเขียนหนังสือเพื่อแนะนำกลยุทธ์ในการทำงาน 90 วันแรกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เขาแนะนำกับดักที่ทำให้ผู้บริหารหลายคนล้มเหลวกับการเริ่มงานใหม่ ไว้ 7 ข้อครับ 1. ยึดติดกับความรู้ วิธีการปฏิบัติเดิมๆ ที่เคยทำสำเร็จในองค