ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สูตรลับวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็ว แถมได้เงินมาใช้อีกด้วย


วิธีนี้หลายท่านคงรู้ดีอยู่แล้ว  ผมขอแชร์ให้ผู้ที่ไม่รู้แล้วกันนะครับ สละเวลาอ่านแล้วคุณจะประหยัดเงินได้เยอะเลย
ที่ผมอยากแชร์ ปสก ตรงนี้ก็เพราะว่า พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ผมหลายๆคน ที่บ้านนอกเค้าไม่เคยรู้เลยว่ามันทำได้ (คนในเมืองส่วนใหญ่จะรู้แล้ว) ได้แต่ก้มหน้าผ่อนธนาคารทำตามสเต็ป ผมเห็นท่านเหนื่อยมาก่อน พอผมมีปสก. กับตัวแล้วทำได้จริง ก็อยากบอกต่อ สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ครับ
1. ผ่อนให้หมดไว คือการรู้จักขอลดดอกเบี้ย 
2. ได้เงินคืนบางส่วน คือเงินประกัน ที่หลายคนถูกบังคับให้ทำตอนกู้นะครับ ซึ่งหลายธนาคารมักจะอ้างว่า จะได้อนุมัติให้ผ่านง่ายขึ้นถ้าทำประกัน 
(หลายคนอาจจะมีวิธีพูดที่ไม่ต้องทำ ตั้งแต่แรก แต่อันนี้สำหรับคนที่โดนไปแล้วนะครับ)
***********
1. ปกติสัญญามักจะบอกว่าห้ามปิด (โปะหนี้)ก่อน3 ปี  เราจึงใช้ช่องโหว่ตรงนี้มาขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารครับ โดยการบอกว่าขอลดดอกเบี้ย (หลังจากผ่อนครบ 3 ปี) ถ้าไม่ได้ เรามีแผนว่าจะ รีไฟแนนท์ไปธนาคารอื่น (หมายถึง เราจะให้ธนาคารอื่นมาโปะหนี้กับธนาคารเดิม แล้วเราไปเป็นหนี้ธนาคารอื่นแทน)  เมื่อบอกแบบนี้แล้วธนาคารจะพยายามรักษาลูกหนี้ไว้ โดยการ รีเทนชั่น (คือลดดอกเบี้ยให้)   
วิธีการ
ไปติดต่อที่สาขา ที่คุณกู้  เพื่อเจรจาขอลดดอกเบี้ย  โดยวิธีการคุยให้คุณได้เปรียบคือ ขอลดดอกเบี้ยดื้อๆเลยครับ โดยให้เหตุผลแค่ว่า เพราะเราเป็นลูกค้าชั้นดี ไม่เคยมีประวัติชำระไม่ตรง และตอนนี้ผ่อนมาครบ 3 ปีแล้ว อยากขอลดดอกเบี้ย ถ้าไม่ได้จะตั้งใจว่าจะรีไฟแนนท์ เพราะไปเช็คดอกเบี้ย โฮมโลนสำหรับลูกค้าใหม่มาแล้ว 4-5 ธนาคาร แล้วดอกถูกกว่าที่จ่ายอยู่
จากนั้นพนักงานอาจจะถามคุณว่าสนใจที่ไหนอยู่ คุณก็แกล้งบอกไปซัก 1 ธนาคาร ที่ดอกต่ำที่สุดในกระดาษที่คุณจดมา  (แต่คุณต้องเช็คแล้วเขียนใส่กระดาษไปเลย ว่าดอกเบี้ยแต่ละธนาคารเท่าไหร่ 4-5 ที่ อย่างที่บอกจริงๆ ย้ำว่าต้องเช็คไปจริงๆ เพราะคุณจะต่อรองได้มาก ธนาคารจะรู้เรตของธนาคารอื่นอยู่แล้ว แค่แกล้งถามให้รู้ว่าคุณเช็คมาจริง คุณเอาจริง) จากนั้นธนาคารเค้าจะออฟเฟอร์ดอกเบี้ยใหม่ให้คุณ ซึ่งก็ยังแพงกว่าของธนาคารที่คุณแจ้งไปเล็กน้อย  (เพราะเค้ารู้ว่า ถ้าคุณรีไฟแนนท์ คุณก็ต้องมีค่าใช้จ่าย และบางคนก็มองว่ายุ่งยาก ดอกเบี้ยลดให้แล้ว แต่ยังแพงกว่าหน่อย ลูกค้าส่วนใหญ่ก็โอเค ซื้อความสะดวก)  พอคุณได้ดอกเบี้ยใหม่ คุณก็ถามเค้าได้เลยว่า ดอกเบี้ยใหม่ เริ่มคิดให้ตั้งแต่เดือนไหน  (ผมกำลังหมายความว่า คุณสามารถไปติดต่อก่อนครบ 3 ปี ล่วงหน้าซัก 1-2 เดือนได้เลย)
**** ปล  ดอกเบี้ยของธนาคารอื่น 4-5 ธนาคารที่ผมให้เช็คและจดไปว่าที่ไหนต่ำสุด ให้คุณคำนวณว่าในระยะเวลาอีก 3 ปีที่จะผ่อนข้างหน้าต่ำสุด  ไม่ใช่ดูแค่ว่า 0% 3 เดือนแรก จากนั้น แพง  ให้คำนวณดูที่ 3 ปี  เพราะหลังจากนั้นทุกๆ 3 ปี คุณก็ใช้ช่องโหว่เดิมมาขอลดดอกเบี้ยได้อีก (จึงแนะนำให้ดูที่ 3 ปี) ทั้งนี้ทั้งนั้น ยอดหนี้ต้องเกิน 1 ล้านบาทตอนไปขอลดดอกเบี้ย (แล้วแต่ธนาคาร)  
เพิ่มเติมให้ครับ  --> บางธนาคารก็ดูท่าทีเรานะครับ เพื่อประเมินว่าควรให้ดอกเบี้ยใหม่เท่าไหร่ ถ้าไม่รู้อะไรไปเลยก็จะได้ลดไม่เยอะ  เพื่อนผมเคยเจอแบบว่า พอพูดว่าจะรีไฟแนนท์ เค้าเช็คดูว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตหรือป่าว จนเพื่อนผมต้องบอกว่า หนี้บัตรตั้งใจปิดก่อนรีไฟแนนท์อยู่แล้ว เพราะรู้ว่าต้องใช้ในการพิจารณ์สินเชื่อบ้าน  ยังไงก็จะปิดอยู่แล้ว  เลยได้ลดดอกเบี้ยมาครับ ถ้าเค้ารู้ว่าเราไม่มีทางเลือกเป็นหนี้บัตรเครดิต อาจจะยากในการขอสินเชื่อจากธนาคารใหม่ ธนาคารก็อาจจะดึงเกมส์โดยไม่ลดให้ หรือลดให้ไม่มาก เพราะรู้ว่าที่จริงแล้วเราไม่มีทางเลือกน่ะครับ
ทางที่ดี ก่อนไปต่อรอง ควรชำระบัตรให้หมด หรืออย่างน้อยให้บัตรเครดิตของธนาคารนั้นเป็น 0 ไปรวมหนี้ไว้ที่บัตรของธนาคารอื่นก่อน
------------------------------------------------------------------------
2. ได้รับเงินคืน เมื่อผ่อนหมด
กรณีถ้าคุณโดนบังคับทำประกันพร้อมกู้ซื้อบ้าน และคุณได้ทำสัญญากู้บ้านเช่น ทำสัญญากู้บ้าน 30 ปี  แต่คุณผ่อนจริง 17 ปีหมด คุณสามารถติดต่อขอเคลมเงินประกันคืน โดยคุณให้เหตุผลกับธนาคารว่า คุณได้คุ้มครองแค่ 17 ปี ที่เหลืออีก 13 ปีไม่ได้มีการคุ้มครอง เพราะผ่อนบ้านหมดแล้ว ดังนั้นจึงขอเคลม 13 ปีที่ไม่ได้คุ้มครองคืนเป็นเงิน   
**** ทั้งนี้เงินที่ขอเคลมคืนอาจจะไม่ได้มากนะครับ อาจจะไม่กี่หมื่น  สอบถามธนาคารได้เลยว่าได้คืนเท่าไหร่ และธนาคารอาจจะยื่นข้อเสนอว่าถ้าไม่รับคืนก็จะคุ้มครองต่อ (ซึ่งการคุ้มครองมักจะเป็นได้เงิน ถ้าเราตาย ส่วนใหญ่ธนาคารจะทำประกันแบบนี้ให้ เพราะเค้ากลัวว่าเราตายก่อนผ่อนบ้านหมด ซึ่งผู้ที่ได้ก็ไม่ใช่เรา แต่เป็นผู้รับประโยชน์ในสัญญากรมธรรม์ )ซึ่งถ้าเราให้เค้าคุ้มครองต่อ เราก็แจ้งชื่อผู้รับประโยชน์ใหม่ไปได้เลย เพราะผู้รับประโยชน์เก่าในกรรมธรรม์ก่อนที่เราจะปิดบ้านหมด คือธนาคาร ) ดังนั้นคุณสามารถลองชั่งน้ำหนักดูได้ว่า จะเคลมเอาเงินคืน หรือให้เค้าคุ้มครองต่อไป  
ทั้งหมดนี้เป็น 2 ข้อง่ายๆที่ผมได้จากประสบการณ์ตัวเอง ประหยัดเงินไปได้หลายแสน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ยาอมตะ..ไข่ดองน้ำส้มสายชูหมัก

***ยาอมตะ..ไข่ดองน้ำส้มสายชูหม ัก*** ไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมักเป็นตำ รายาโบราณของจีนในสมัยพระเจ้าจิ ๋นซีฮ่องเต้ ได้สืบทอดต่อมาจนถึงบัดนี้ได้เผ ยแพร่ไปทั่วแถบเอเชีย  และในหมู่ชาวจีน  ในประเทศอเมริกา ผู้นำตำรามาเผยแ พร่คน แรกได้นำยามาทานเอง และแนะนำให้เพื่อน ฝูงทานด้วยได้ ผลดีเหมือนปาฏิหารย์สามารถรักษา โรคได้หลายโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคของผู้สูงอายุ ผู้เผยแพร่ทานยาไปแล้วกว่า 100 ฟองได้ผลดีเหมือนอย่างหนังกำลัง ภายใน สังเกตจากการเดินขึ้นบันไดจะไม่เหนื่อยเหมือนแต่ก่อน เพราะหัวใจจะแข็งแรง มากเป็นพิเศ ษ สรรพคุณ : รักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โรคหัวใจ) เลือดข้นและเหนียวเบาหวาน ความดันโลหิต สูง  ความดัน โลหิตต่ำ ลดไขมันในเลือด (ทั้งคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไ รด์) ไทรอยด์อัมพฤกษ์หรืออัมพาต อันเนื่องจาก เส้นเลือดในสมองตีบ ละลายหินปูน อาการเมื่อยชาตึงปวดและบวมตามร่างกาย โดยเฉพาะอย่ างยิ่งบริเวณด้านหน้า และด้านหลั ง ปวดเข่าปวดหลังขาไม่มีเรื่ยวแรง (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากหินปูนที่ง อก พอกกระดูกสันหลังเบียดหรือทับ เส้นประสาท)

Detox ราคาประหยัดด้วยกระเจี๊ยบเขียว

หลังจากงานเฉลิมฉลอง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา หลายคนคงกินเลี้ยงสังสรรค์กัน อาจจะเผลอตามใจปาก อาจลืมดูแล สุขภาพ ตัวเอง ว่าในรอบปีที่ผ่านมาร่างกายเราทำงานหนักโดยเฉพาะสุขภาพภายในที่ต้องแบกภาระหนักกับอาหารการกินที่เรากินเข้าไปอย่างไม่ระวัง เช่น กินปลาดิบ เสต็ก ผักดิบ ของหมักดอง  อาหารเหล่านี้อาจจะมีพยาธิแฝงตัวอยู่ อย่างน้อยร่างกายเราควร detox การถ่ายพยาธิปีละครั้งก็เป็นเรื่องดี เนื่องจากเจ้าพยาธิจะทำให้เลือดลมเดินไม่ดี และเมื่อมีการวางใข่ก็จะทำให้เลือดสกปรก ส่งผลทำให้เป็น ไฝ ฝ้า ผิวพรรณหมองคล้ำ ไม่สดใส กระเจี๊ยบเขียว  เป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพราะมีวิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเส้นใยสูง คนไทยส่วนใหญ่นิยมนำ กระเจี๊ยบเขียวมาจิ้มน้ำพริก นอกจากนี้ยังนำมาทำอาหารได้หลายอย่างอาทิ ยำกระเจี๊ยบเขียว แกงกะหรี่ปลาใส่กระเจี๊ยบเขียว ผัดเมล็ดกระเจี๊ยบเขียว กระเจี๊ยบเขียวชุบแป้งทอด เป็นต้น สรรพคุณทางยา กระเจี๊ยบเขียว  เป็นพืชที่หาซื้อได้ง่าย มีขายตามตลาดสดทั่ว รวมทั้งในศูนย์การค้า มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะในฝักกระเจี๊ยบนั้นมีสารเมือกพวกเพ็กติน (Pectin)

สูตรสำเร็จ 90 วัน ผู้นำคนใหม่

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 16:54:11 น. มติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เขียนข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยระว่า เมื่อวันก่อนไปเจอหนังสือเล่มนึง น่าสนใจครับ ผมอ่านแล้วมีประโยชน์ดี โดยเฉพาะในช่วงใกล้ตุลาคม ที่จะมีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง รวมถึงคนทั่วไปที่ต้องมีการเปลี่ยนงาน หรือ เปลี่ยนตำแหน่งครับ หนังสือชื่อ "The First 90 Days" เขียนโดย Michael D.Watkins ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการพัฒนาผู้นำ การเปลี่ยนตำแหน่ง การเริ่มงานใหม่ Watkins เขากล่าวว่าจากผลการสำรวจผู้บริหารมากกว่า 1,300 คน 90% เห็นว่าช่วงการเริ่มงานในตำแหน่งใหม่เป็นช่วงที่ท้าทายที่สุดของการเป็นผู้นำ และ 75% เห็นว่าความสำเร็จหรือความล้มเหลวในช่วง 2-3 เดือนแรก จะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญถึงความสำเร็จในอนาคต เขาจึงเขียนหนังสือเพื่อแนะนำกลยุทธ์ในการทำงาน 90 วันแรกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เขาแนะนำกับดักที่ทำให้ผู้บริหารหลายคนล้มเหลวกับการเริ่มงานใหม่ ไว้ 7 ข้อครับ 1. ยึดติดกับความรู้ วิธีการปฏิบัติเดิมๆ ที่เคยทำสำเร็จในองค