วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์
ในนาทีนี้เปิดเว็บไซต์สำนักข่าวใหญ่เว็บไหนเป็นต้องเห็นหน้า แจ๊ก หม่า มหาเศรษฐีจีนเจ้าของเว็บไซต์ "อาลีบาบา" ผู้ให้บริการค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เพิ่งผงาดนำบริษัทบุกตลาดหุ้นนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา
พร้อมติดอันดับ 71 ใน 100 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์
เศรษฐีวัย 50 ปี คนนี้เกิดที่เมืองหางโจว ทางตะวันออกของประเทศจีน และมีอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่บ้านเกิด
เคยพยายามที่จะหางานในเมืองหลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธ จนเมื่อปี 2545 ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนสหรัฐครั้งแรก ในฐานะล่าม
ที่นี่เป็นโอกาสครั้งแรก ที่หม่าได้สัมผัสกับคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมกับระบบอินเตอร์เน็ต
เมื่อปี 2552 ร่วมก่อตั้งอาลีบาบาขึ้นมาครั้งแรกในอพาร์ตเมนต์ขนาด 1 ห้องนอน พร้อมความช่วยเหลือจากเพื่อน 17 คน ที่ยอมให้หม่ากู้เงินมา 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.92 ล้านบาท) เพื่อจัดตั้งบริษัทค้าปลีกออนไลน์ ก่อนขยายไปสู่บริการด้านอื่นๆ
ปัจจุบันมีผู้เข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่องมากกว่า 279 ล้านคน และในแต่ละปี มีอัตราการจัดส่งสินค้ามากกว่าอเมซอน และอีเบย์ รวมกัน!
ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด เกี่ยวกับการพาบริษัทอาลีบาบา เข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐ หม่าเผยว่า ฮีโร่ในดวงใจที่พามาถึงจุดนี้คือ "ฟอร์เรสต์ กัมพ์"
"ผมชอบฟอร์เรสต์กัมพ์ ผมดูหนังเรื่องนี้มากกว่า 10 ครั้ง ทุกครั้งที่ผมท้อแท้ ผมจะดูหนังเรื่องนี้" หม่ากล่าวและเผยรายละเอียดว่า การเอาชนะขวากหนามต่างๆ ของตัวละครที่สร้างจากนิยาย เรื่องนี้ เป็นกำลังใจให้ตนได้เป็นอย่างดี
"สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ก็คือไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปอย่างไร คุณก็ยังเป็นคุณ ผมเองเป็นเหมือนที่เคยเป็นเมื่อ 15 ปีก่อนที่หาเงินได้ 20 ดอลลาร์ (ราว 600 บาท) ต่อเดือน" หม่ากล่าว
ในสมัยเด็ก หม่าอยากเรียนภาษาอังกฤษมาก และขวนขวายด้วยตนเอง ยอมปั่นจักรยานเป็นเวลา 45 นาที เพื่อเข้าเมืองไปยังโรงแรมที่ใกล้ที่สุด และพูดคุยกับชาวต่างชาติ
หม่าพานักท่องเที่ยวเหล่านั้นเดินทางรอบเมือง โดยไม่คิดเงิน แลกเปลี่ยนกับการได้ฝึกและสั่งสมประสบการณ์ด้านภาษาของตนเอง
นอกจากนี้ หม่ายังถือเป็นคนแรกๆ ที่เริ่มศึกษาการเขียนเว็บไซต์ในประเทศจีนในยุคทศวรรษที่ 1990 และเริ่มรับงานเขียนเว็บไซต์ให้หลายบริษัทของจีน ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนในสหรัฐ
การนำอาลีบาบาเข้าตลาด หุ้นสหรัฐในครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ทำลายสถิติครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เพราะเพียง วันเดียว สร้างมูลค่าหุ้นในวอลล์สตรีตได้แซงหน้า "เฟซบุ๊ก" โซเชี่ยลมีเดียชื่อดัง และมีมูลค่ามากกว่าคู่แข่งทั้ง "อเมซอน" และ "อีเบย์"
มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ราว 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.48 แสนล้านบาท!
หมายความว่า ตอนนี้ หม่าร่ำรวยกว่ามหาเศรษฐีจากโลกเทคโนโลยีอย่าง บิล เกตส์ เจ้าของไมโครซอฟท์ และ เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของอเมซอน เป็นที่แน่นอนแล้ว
แม้ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีในชั่วพริบตา หลังจากพาบริษัทเข้าตลาดหุ้น หม่าบอกว่า ความร่ำรวยที่พุ่งเข้าใส่ชีวิตของตนในตอนนี้นั้นเป็น "เรื่องปวดหัว"
ในอีเมล์ฉบับหนึ่งที่หม่าส่งให้พนักงานในบริษัท ใจความว่า พวกเราทำงานกันมาอย่างหนัก แต่ไม่ใช่เพราะว่าเราต้องการความร่ำรวย นอกจากนี้ หม่ายังระบุว่า อยากให้พนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่ร่ำรวยขึ้นจาก การถือหุ้นในบริษัท นำกำไรที่ได้จากตรงนี้ ไปพัฒนาตนเองและสังคม
เพิ่งผงาดนำบริษัทบุกตลาดหุ้นนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา
พร้อมติดอันดับ 71 ใน 100 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์
เศรษฐีวัย 50 ปี คนนี้เกิดที่เมืองหางโจว ทางตะวันออกของประเทศจีน และมีอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่บ้านเกิด
เคยพยายามที่จะหางานในเมืองหลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธ จนเมื่อปี 2545 ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนสหรัฐครั้งแรก ในฐานะล่าม
ที่นี่เป็นโอกาสครั้งแรก ที่หม่าได้สัมผัสกับคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมกับระบบอินเตอร์เน็ต
ปัจจุบันมีผู้เข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่องมากกว่า 279 ล้านคน และในแต่ละปี มีอัตราการจัดส่งสินค้ามากกว่าอเมซอน และอีเบย์ รวมกัน!
ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุด เกี่ยวกับการพาบริษัทอาลีบาบา เข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐ หม่าเผยว่า ฮีโร่ในดวงใจที่พามาถึงจุดนี้คือ "ฟอร์เรสต์ กัมพ์"
"ผมชอบฟอร์เรสต์กัมพ์ ผมดูหนังเรื่องนี้มากกว่า 10 ครั้ง ทุกครั้งที่ผมท้อแท้ ผมจะดูหนังเรื่องนี้" หม่ากล่าวและเผยรายละเอียดว่า การเอาชนะขวากหนามต่างๆ ของตัวละครที่สร้างจากนิยาย เรื่องนี้ เป็นกำลังใจให้ตนได้เป็นอย่างดี
"สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ก็คือไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปอย่างไร คุณก็ยังเป็นคุณ ผมเองเป็นเหมือนที่เคยเป็นเมื่อ 15 ปีก่อนที่หาเงินได้ 20 ดอลลาร์ (ราว 600 บาท) ต่อเดือน" หม่ากล่าว
ในสมัยเด็ก หม่าอยากเรียนภาษาอังกฤษมาก และขวนขวายด้วยตนเอง ยอมปั่นจักรยานเป็นเวลา 45 นาที เพื่อเข้าเมืองไปยังโรงแรมที่ใกล้ที่สุด และพูดคุยกับชาวต่างชาติ
หม่าพานักท่องเที่ยวเหล่านั้นเดินทางรอบเมือง โดยไม่คิดเงิน แลกเปลี่ยนกับการได้ฝึกและสั่งสมประสบการณ์ด้านภาษาของตนเอง
นอกจากนี้ หม่ายังถือเป็นคนแรกๆ ที่เริ่มศึกษาการเขียนเว็บไซต์ในประเทศจีนในยุคทศวรรษที่ 1990 และเริ่มรับงานเขียนเว็บไซต์ให้หลายบริษัทของจีน ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนในสหรัฐ
การนำอาลีบาบาเข้าตลาด หุ้นสหรัฐในครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ทำลายสถิติครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เพราะเพียง วันเดียว สร้างมูลค่าหุ้นในวอลล์สตรีตได้แซงหน้า "เฟซบุ๊ก" โซเชี่ยลมีเดียชื่อดัง และมีมูลค่ามากกว่าคู่แข่งทั้ง "อเมซอน" และ "อีเบย์"
มูลค่าของบริษัทอยู่ที่ราว 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.48 แสนล้านบาท!
หมายความว่า ตอนนี้ หม่าร่ำรวยกว่ามหาเศรษฐีจากโลกเทคโนโลยีอย่าง บิล เกตส์ เจ้าของไมโครซอฟท์ และ เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของอเมซอน เป็นที่แน่นอนแล้ว
แม้ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีในชั่วพริบตา หลังจากพาบริษัทเข้าตลาดหุ้น หม่าบอกว่า ความร่ำรวยที่พุ่งเข้าใส่ชีวิตของตนในตอนนี้นั้นเป็น "เรื่องปวดหัว"
ในอีเมล์ฉบับหนึ่งที่หม่าส่งให้พนักงานในบริษัท ใจความว่า พวกเราทำงานกันมาอย่างหนัก แต่ไม่ใช่เพราะว่าเราต้องการความร่ำรวย นอกจากนี้ หม่ายังระบุว่า อยากให้พนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่ร่ำรวยขึ้นจาก การถือหุ้นในบริษัท นำกำไรที่ได้จากตรงนี้ ไปพัฒนาตนเองและสังคม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น