สารภาพแบบเชย ๆ เลยว่าผมไม่เคยซื้อสินค้าออนไลน์เลยครับ แฮ่ม...ยกเว้น "สติ๊กเกอร์" ของไลน์
แต่เห็นการเติบโตของการค้าออนไลน์แล้วน่าตกใจมากยิ่งมาฟัง "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" ของ "ตลาดดอทคอม" แล้ว ยิ่งตื่นตาตื่นใจ
โลกของการค้าออนไลน์มโหฬารจริง ๆ ครับเพราะถ้าเป็นร้านค้าปลีกทั่วไป กลุ่มเป้าหมายของเขาก็คือคนที่ผ่านหน้าร้าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนในพื้นที่ แต่ถ้าปรับมาเป็นขายแบบออนไลน์ กลุ่มลูกค้าของเขาไม่ใช่เพียงแค่คนในพื้นที่เท่านั้น แต่เป็นทั่วประเทศ ขอโทษ ไม่ใช่ครับ "ภาวุธ" บอกว่า "ทั่วโลก"
กลุ่มเป้าหมาย คือ คนทั้งโลก อยู่ที่ไหนก็ซื้อได้ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่สินค้าเล็ก ๆ เบา ๆที่ขนส่งง่าย ๆ เท่านั้นที่ขายดีในโลกออนไลน์ แต่ระดับเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ ก็ขายได้ในโลกออนไลน์
เขายกตัวอย่างร้านเฟอร์นิเจอร์ร้านหนึ่งที่เริ่มขายทางออนไลน์ ขายดิบขายดีจน วันนี้ไม่มีหน้าร้านแล้ว
ขายออนไลน์อย่างเดียวในต่างประเทศ ค้าปลีกใหญ่ ๆ อย่าง "เทสโก้" ก็ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ หันมาขายทางออนไลน์มากขึ้น เพราะยอดขายตามช่องทางเดิมเริ่มลดต่ำลง ที่เมืองไทย "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่เคยมี "เซเว่นแค็ตตาล็อก" ตอนนี้ก็ปรับมาขายออนไลน์มากขึ้น
ปัญหาใหญ่ของเมืองไทยตอนนี้ก็คือ ระบบการขนส่งสินค้าทำอย่างไรจะส่งสินค้าไปถึงมือคนซื้อได้มีประสิทธิภาพที่สุด ตอนนี้ "ไปรษณีย์ไทย" เป็นคำตอบที่ดีที่สุดของการค้าออนไลน์ ใคร ๆ ก็ส่งผ่านไปรณีย์ไทย และต้องยอมรับว่า "ไปรษณีย์ไทย" ถือเป็นรัฐวิสาหกิจที่ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้เก่งมาก
ในอดีตเคยมีรายได้หลักจากการส่งจดหมายแต่พอโลกนี้มีอีเมล์ มีโซเชียลมีเดียที่เร็วกว่า และไม่ต้องเสียเงิน การส่งจดหมายหากันก็น้อยลง ตอนนั้นใคร ๆ ก็คิดว่าไปรษณีย์ไทยจะตาย แต่สุดท้ายเขาสามารถปรับตัวรับโลกยุคใหม่ ด้วยการเปลี่ยนมุมคิด
ถามตัวเองอีกครั้งว่า "เราอยู่ในธุรกิจอะไร"และได้คำตอบใหม่คือ "เราอยู่ในธุรกิจโลจิสติกส์" จัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคใช้จุดแข็งดั้งเดิมให้เป็นประโยชน์
ดังนั้น ยิ่งโลกการค้าออนไลน์ขยายตัวมากเท่าไร ไปรษณีย์ไทยก็รับเละมากเท่านั้น ในอีกมุมหนึ่ง "โอกาส" ของธุรกิจนี้ก็เปิดกว้างให้ "คู่แข่ง" รายใหม่เข้ามา มีข่าวว่าบริษัทในต่างประเทศหลายแห่งเริ่มขยับแล้ว
ในมุมหนึ่ง นี่คือ "โอกาส" ของบริษัทจัดจำหน่ายในประเทศที่มีเครือข่ายการขนส่งสินค้า
ทั่วประเทศ อย่างเช่นหนังสือพิมพ์รายวันที่ต้องวิ่งรถ ทุกวัน ทุกจังหวัด ถ้าจับมือกับบริษัทต่างประเทศที่มี "โนว์ฮาว" ในการส่งสินค้าออนไลน์ ทั้งระบบส่งของถึงมือผู้บริโภค และโกดังจัดเก็บสินค้า บางทีอาจเกิดเครือข่ายจัดจำหน่ายใหม่
กลายเป็น "คู่แข่ง" ของ "ไปรษณีย์ไทย" ก็ได้
แต่เห็นการเติบโตของการค้าออนไลน์แล้วน่าตกใจมากยิ่งมาฟัง "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" ของ "ตลาดดอทคอม" แล้ว ยิ่งตื่นตาตื่นใจ
โลกของการค้าออนไลน์มโหฬารจริง ๆ ครับเพราะถ้าเป็นร้านค้าปลีกทั่วไป กลุ่มเป้าหมายของเขาก็คือคนที่ผ่านหน้าร้าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนในพื้นที่ แต่ถ้าปรับมาเป็นขายแบบออนไลน์ กลุ่มลูกค้าของเขาไม่ใช่เพียงแค่คนในพื้นที่เท่านั้น แต่เป็นทั่วประเทศ ขอโทษ ไม่ใช่ครับ "ภาวุธ" บอกว่า "ทั่วโลก"
กลุ่มเป้าหมาย คือ คนทั้งโลก อยู่ที่ไหนก็ซื้อได้ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่สินค้าเล็ก ๆ เบา ๆที่ขนส่งง่าย ๆ เท่านั้นที่ขายดีในโลกออนไลน์ แต่ระดับเฟอร์นิเจอร์หนัก ๆ ก็ขายได้ในโลกออนไลน์
เขายกตัวอย่างร้านเฟอร์นิเจอร์ร้านหนึ่งที่เริ่มขายทางออนไลน์ ขายดิบขายดีจน วันนี้ไม่มีหน้าร้านแล้ว
ขายออนไลน์อย่างเดียวในต่างประเทศ ค้าปลีกใหญ่ ๆ อย่าง "เทสโก้" ก็ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ หันมาขายทางออนไลน์มากขึ้น เพราะยอดขายตามช่องทางเดิมเริ่มลดต่ำลง ที่เมืองไทย "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่เคยมี "เซเว่นแค็ตตาล็อก" ตอนนี้ก็ปรับมาขายออนไลน์มากขึ้น
ปัญหาใหญ่ของเมืองไทยตอนนี้ก็คือ ระบบการขนส่งสินค้าทำอย่างไรจะส่งสินค้าไปถึงมือคนซื้อได้มีประสิทธิภาพที่สุด ตอนนี้ "ไปรษณีย์ไทย" เป็นคำตอบที่ดีที่สุดของการค้าออนไลน์ ใคร ๆ ก็ส่งผ่านไปรณีย์ไทย และต้องยอมรับว่า "ไปรษณีย์ไทย" ถือเป็นรัฐวิสาหกิจที่ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้เก่งมาก
ในอดีตเคยมีรายได้หลักจากการส่งจดหมายแต่พอโลกนี้มีอีเมล์ มีโซเชียลมีเดียที่เร็วกว่า และไม่ต้องเสียเงิน การส่งจดหมายหากันก็น้อยลง ตอนนั้นใคร ๆ ก็คิดว่าไปรษณีย์ไทยจะตาย แต่สุดท้ายเขาสามารถปรับตัวรับโลกยุคใหม่ ด้วยการเปลี่ยนมุมคิด
ถามตัวเองอีกครั้งว่า "เราอยู่ในธุรกิจอะไร"และได้คำตอบใหม่คือ "เราอยู่ในธุรกิจโลจิสติกส์" จัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคใช้จุดแข็งดั้งเดิมให้เป็นประโยชน์
ดังนั้น ยิ่งโลกการค้าออนไลน์ขยายตัวมากเท่าไร ไปรษณีย์ไทยก็รับเละมากเท่านั้น ในอีกมุมหนึ่ง "โอกาส" ของธุรกิจนี้ก็เปิดกว้างให้ "คู่แข่ง" รายใหม่เข้ามา มีข่าวว่าบริษัทในต่างประเทศหลายแห่งเริ่มขยับแล้ว
ในมุมหนึ่ง นี่คือ "โอกาส" ของบริษัทจัดจำหน่ายในประเทศที่มีเครือข่ายการขนส่งสินค้า
ทั่วประเทศ อย่างเช่นหนังสือพิมพ์รายวันที่ต้องวิ่งรถ ทุกวัน ทุกจังหวัด ถ้าจับมือกับบริษัทต่างประเทศที่มี "โนว์ฮาว" ในการส่งสินค้าออนไลน์ ทั้งระบบส่งของถึงมือผู้บริโภค และโกดังจัดเก็บสินค้า บางทีอาจเกิดเครือข่ายจัดจำหน่ายใหม่
กลายเป็น "คู่แข่ง" ของ "ไปรษณีย์ไทย" ก็ได้
ที่มา updated: 14 ม.ค. 2557 เวลา 19:40:39 น.
คอลัมน์ Market-think
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น